ประกาศเเล้ว! กรมอุตุฯ เปิดเเผนที่ฝนตก 10 – 19 พ.ย. นี้ จับตาพายุฟงวอง

เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 ศูนย์ประชาสัมพันธ์กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศผลการพยากรณ์ฝนสะสมรายวัน ผ่านเพจเฟซบุ๊ก กรมอุตุนิยมวิยา โดยระบุว่า อัปเดตผลการพยากรณ์ฝนสะสมรายวัน (ทุก ๆ 24 ชม. นับตั้งแต่ 07.00 น. ถึง 07.00 น.วันรุ่งขึ้น และลมที่ระดับ 850hPa 1.5 กม.10 วันล่วงหน้า ระหว่าง วันที่ 10 – 19 พ.ย. 68 จากแบบจำลองของกรมอุตุนิยมวิทยา (TMD-WRFDA) เฉดสีแสดงถึงปริมาณฝน (มม.) สีเขียว หมายถึง ฝนเล็กน้อย สีแดง หมายถึง ฝนหนัก (มากว่า 35.1มม.)

ในช่วง 10-12 พ.ย.68 ทิศทางลมยังเปลี่ยนแปลง ภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน เริ่มมีลมตะวันออก ตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุม ความชื้นยังสูง จึงยังคงมีเมฆมาก มีโอกาสเกิดฝน ส่วนใหญ่ยังเป็นฝนเล็กน้อยถึงปานกลาง แต่ไม่น่ากังวลปริมาณน้ำที่จะไหลมาเพิ่มเติมในลุ่มน้ำต่าง ๆ ไม่มากนัก แนวโน้มฝนจะค่อย ๆ ลดลง เกษตรกรที่กำลังเก็บเกี่ยวหรือตากผลผลิต ต้องเร่งหาทางป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตได้ในระยะนี้

ส่วนภาคอีสานฝนเริ่มน้อยลง เริ่มมีแสงแดด ยังมีฝนบางแห่งทางตอนล่าง สำหรับภาคใต้ ยังมีฝนบางแห่ง และตกหนักบางจุด คลื่นลมเริ่มเบาลง คาดว่ามวลอากาศเย็นกำลังอ่อนจะยังคงแผ่มาปกคลุมประเทศไทยตอนบนเป็นระบบมากขึ้น จะมีฝนเกิดขึ้นในช่วงแรกๆ ที่มวลอากาศเย็นเริ่มแผ่ลงมา หลังจากนั้นอากาศจะเริ่มเย็นในตอนเช้า ฝนลดลง ยังมีฝนเล็กน้อยบางแห่งในภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก กทม.และปริมณฑล

ช่วงวันที่ 13-19 พ.ย.68 มวลอากาศเย็นจากประเทศจีนกำลังปานกลางถึงค่อข้างแรง (สีฟ้า ๆ ถึงน้ำเงิน) จะเริ่มแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนอย่างต่อเนื่อง ลมแรงขึ้น ทำให้ฝนน้อยลง อากาศเริ่มเย็นลง บางช่วงอาจจะมีฝนเล็กน้อย ระวังรักษาสุขภาพช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง เตรียมรับลมหนาวและวางแผนท่องเที่ยวได้ในระยะนี้โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน ยอดดอย ยอดภู มีอากาศหนาว และเมื่อลมหนาวแรงขึ้น

ประกอบกับอาจมีหย่อมความกดอากาศต่ำ เคลื่อนผ่านภาคใต้ จะทำให้ภาคใต้โดยเฉพาะฝั่งอ่าวไทยมีฝนเพิ่มขึ้น มีฝนตกหนักถึงหนักมาก ต้องเฝ้าระวังและเตรียมการรับมิ และติดตามพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด

ส่วนพายุ ฟงวอง ได้เคลื่อนผ่านเกาะลูซอล ลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนบนแล้ว พายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย จึงไม่น่ากังวล ทั้งนี้ ข้อมูลยังมีการเปลี่ยนแปลง ใช้เป็นแนวทางเพื่อประกอบการตัดสินใจการติดตามสภาพอากาศ

ภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก กรมอุตุนิยมวิยา

เรียบเรียงโดยทีมข่าวสยามนิวส์

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *